
เขา นักฟุตบอลระดับโลกจากสโมสรยักษ์ใหญ่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ตอบรับคำเชิญของสมาคมการกีฬาแห่งประเทศไทยให้มาเป็นโค้ชให้กับนักฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทยเป็นเวลาสองเดือน วันแรกที่เขาเดินทางมาถึงประเทศไทยบังเอิญได้สบตากับเธอที่สนามบิน คนอื่นๆดูตื่นเต้นที่เห็นเขา แต่เธอกับจ้องเขาด้วยสายตาที่เรียบเฉย เขาบังเอิญมาเจอเธออีกครั้งตอนงานแถลงข่าว แต่กลับทำอย่างกับว่าเขาเป็นตัวอันตราย แบบนี้ต้องแกล้งเสียให้เข็ด!
เธอ หลงรักนักฟุตบอลระดับโลกอย่างเขามา 9 ปี ทั้งที่เห็นเขาผ่านสื่อต่างๆแค่เท่านั้น โชคเข้าข้างเธอ เมื่อเขาเดินทางมาเป็นโค้ชฟุตบอลในประเทศไทย เธอมีโอกาสได้ขอลายเซ็นเขา แต่การอยู่ใกล้เขา ทำให้หัวใจของเธอทำงานหนักมากอย่างที่เธอไม่สามารถควบคุมมันได้ แถมเขาทำทีท่าราวกับว่าสนใจเธอ ไม่มีทาง เธอไม่เชื่อหรอกว่าอย่างเขาจะมาสนใจเธอจริงๆ ก็แค่เห็นเธอเป็นทางผ่านหรือไม่ก็แค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง เธอจึงถอยห่าง แต่เขากลับรุกหนักมากขึ้น เธอควรทำอย่างไรดี
.................................................................
“แน่ใจนะคะว่านอนที่โซฟาได้” เสียงหวานว่า เมื่อเธอถือหมอนและผ้าห่มออกมาให้คนตัวโตที่นอนบนโซฟา ตัวโตซะขนาดนั้นคงนอนลำบากแน่
“ได้ครับ” แพทริกพยักหน้า ถึงแม้ในความเป็นจริงจะรู้สึกว่ามันลำบากก็ตามที
“คุณแพทริกไปนอนในห้องไหมคะ เดี๋ยววีนอนที่โซฟาเอง” วีรณาว่าอย่างมีน้ำใจ
“ไม่ครับ แค่นี้สบายมาก เชื่อผมเถอะ” ถึงแม้การนอนโซฟาจะไม่สุขสบาย แต่เขาเป็นผู้ชายนะ จะยอมให้คนตัวเล็กมาลำบากนอนที่โซฟาได้ยังไงกัน
“แน่ใจนะคะ” วีรณาถามเขาอีกครั้ง
“แน่ใจครับ”
“ถ้างั้นวีขอตัวไปนอนก่อนนะคะ” หญิงสาวว่าก่อนจะหมุนตัวสาวเท้ากลับเข้าไปในห้องนอน ถ้าเสียงทุ่มต่ำไม่เรียกเธอเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวก่อนครับวี”
“คะ”
แพทริกไม่ได้ตอบ คนตัวโตลุกพรวดพราดจากโซฟา ก่อนจะสาวเท้ายาวๆเพียงไม่กี่ก้าวก็เข้ามาประชิดตัวเธอ
“จะทำอะไรคะ” เสียงหวานถามเสียงสั่น จู่ๆคนตัวโตก็เข้ามากอดเธอเอาไว้ ถึงแม้จะแค่กอดหลวมๆก็เถอะ มือเล็กทาบบนอกแกร่ง เพื่อไม่ให้เขาประชิดตัวมากเกินไป
คนตัวโตไม่ได้ตอบในสิ่งที่เธออยากรู้ ที่กดจูบลงบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะไล่ลงมาที่ใบหน้านวลเนียนหอมกรุ่นทั้งสองข้าง
“พะ พอแล้วค่ะ” คนตัวเล็กปราม เพราะคนตัวโตทำท่าจะเลยเถิดลามมาที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ
แพทริกกดจูบที่ริมฝีปากบางหนักๆหนึ่งครั้ง แขนกำยำยังคงโอบเอวบางเอาไว้อย่างหลวมๆ
“ให้ตายเถอะ เมื่อไหร่คุณจะเรียนจบซะที” เสียงทุ้มเอ่ยหลังผละออกจากริมฝีปากบาง
“ใกล้จบแล้วนี่คะ อีกไม่กี่วันเอง” วีรณาตอบอย่างพาซื่อ
“คุณรู้ไหม ผมแทบอดใจรอให้วันนั้นมาถึงแทบไม่ไหว”
“ทำไมคะ” คิ้วสวยขมวดมุ่น ริมฝีปากบางขยับถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะว่าผมอยากจะสัมผัสคุณให้มากกว่านี้”
วีรณาตาเบิกกว้างกับสิ่งที่เขาบอกออกมาอย่างโต้งๆ เธอเข้าใจดีว่าเขาหมายความว่าอย่างไร แต่ก่อนที่หญิงสาวจะได้เอ่ยอะไรออกมา แพทริกก็กดจูบลงที่ริมฝีปากอีกหนึ่งครั้ง ก่อนจะผละออกอย่างห้ามใจ
“รีบเข้าห้องเถอะ ผมจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าเอ่ยออกมา ตอนนี้เลือดในกายเขาเดือดพล่านเพราะความปรารถนาในคนตรงหน้า เพียงแค่ได้สัมผัสเธออย่างแผ่วเบา
เท้าเล็กถอยหลังหนีอย่างอัตโนมัติ ก่อนจะหมุนตัวกลับวิ่งหายไปในห้องนอนอย่างไม่คิดชีวิต โดยมีเสียงทุ้มต่ำตะโกนไล่หลัง
“อย่าลืมกดล็อกประตูด้วยนะครับ”
ชายหนุ่มกำชับ บอกตรงๆเขารู้สึกไม่ไว้ใจตัวเองเลยจริงๆ นับวันความปรารถนาในตัวเธอจะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ จนบางครั้งเขาเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ด้วยสถานะของเธอในตอนนี้ เขารู้ดีว่าไม่สมควรจะล่วงเกินเธอไปมากกว่านี้ แต่ถ้าเธอเรียนจบหรือถ้าแต่งงานกันแล้วล่ะก็ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แพทริกหมุนตัวเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา หลังจากได้ยินเสียงกดล็อกประตู เขาได้แต่ก่นด่าตัวเอง ไม่ควรเลยที่จะนอนค้างที่นี่ ไม่ใช่เพราะทนความลำบากไม่ได้แต่เป็นเพราะเลือดในกายต่างหากที่เดือดพล่านอย่างไม่ยอมเลิกรา สายตาเจ้ากรรมก็คอยแต่จะมองประตูห้องนอนของเธอ หวังว่าตัวเองคงไม่บ้าบอลุกขึ้นไปพังประตูแล้วบุกเข้าไปปลุกปล้ำเธอหรอกนะ