
ในชีวิตของคนเรา มักมีอย่างน้อยสองสิ่งที่ครุ่นคิดอยู่เสมอ คือความรักและความชัง
ความสมหวังในความรัก ย่อมทำให้ผู้ได้รับมีความพอใจ ความริษยาชิงชังย่อมทำให้ผู้ติดอยู่ในมัน
ปราศจากซึ่งความสุข ศจี เกิดและเติบโตด้วยพื้นเพต่ำต้อย " นังจุก " ที่ชาวบ้านแถบนั้นเรียกกัน
ติดปากคือแม่ผู้ให้กำเนิดศจี เธอรักแม่สุดหัวใจ แม่รักเธอยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง หากแม่ก็เป็นตัวอย่าง
ของคนที่หมดหวังในชีวิต คนที่ปราศจากที่พึ่งในหมู่คนด้วยกัน จึงเฝ้าแต่หวังว่า จะมีอิทธิปาฏิหาริย์
ใดๆ มาช่วยให้ตนมีสภาพดีขึ้น หากศจี...มองทุกสิ่งรอบตัวด้วยความทะเยอทะยานอยากอันรุนแรง
ทว่าเงียบเชียบ เธอรู้ดีว่า ถ้าจะหวัง " มือ" อื่น ไม่ว่ามนุษย์หรือเทวดา ความหวังของศจีจะไม่มีวัน
สัมฤทธิผลเป็นอันขาด เช่นนี้...เมื่อศจีอยากได้อะไรก็ต้องใช้ทั้งมือและสมองตนเอง เธอจึงทะยาน
(อยาก) ขึ้นอย่างรุนแรง ไม่มีแม้รัก ไม่มีแม้ชัง มีแต่แรงปรารถนาให้ถึงจุดมุ่งหมาย มีแต่การลุกขึ้น
ต่อสู้ด้วยความทะนงตนแต่ประการเดียวเท่านั้น
สุพรรณ-แกมแก้ว-ชีวิน-รัชนีฉาย-คุณหญิงอรุณวตี-คุณปราจิต ทุกคนล้วนอยู่บนเส้นทาง
ของเธอ ทั้งแข่งขันแก่งแย่ง ทั้งชิงดีชิงเด่น ทั้งคือบทเรียนตัวอย่าง ทั้งคือบันได สะพาน และโอกาส
โอกาสที่เธอไขว่คว้าไว้โดยมิได้คำนึงถึงสิ่งอื่นใดนอกจาก...
" คราวนี้แหละ ทีของเราบ้างละ" แล้วศจีก็ได้รับการเรียกขานว่า " คุณหญิงสุภศจี " ทุกอย่าง
เป็นไปตามแรงปรารถนา แม้แต่ทะเบียนสมรl ที่เธอไม่ต้องการ ก็ยังต้องเป็นไปเช่นนั้น ศจีเป็น
" คุณหญิงนอกทำเนียบ" เต็มตัว และเธอก็เริ่มเข้าใจถ่องแท้ถึงคำพูดของคุณหญิงอรุณวตี
คุณหญิงผู้ฟูมฟักเธอ คุณหญิงผู้สอนให้เธอเป็น "คุณหญิง" ทุกกระเบียดนิ้ว ที่ว่า "เกียรติยศเป็นของร้อน"
เธอเหนื่อยอ่อนต่อความรับผิดชอบต่อเกียรติยศ ทั้งของตนเองที่ต้องสร้างสมบารมีให้มากขึ้น
และของผู้อื่น หากก็ยังพยายาม พยายามบนความสับสน "จริงแล้ว ชีวิตของเธอต้องการอะไรกันแน่?"
แน่นอน ศจีได้มาเกือบครบแล้ว ยกเว้นสิ่งเดียวคือความนบนอบจากใจจริง! และสิ่งนั้น ศจีจะหาคำตอบ
จากผู้ใด มีหรือ...ที่คนคนหนึ่งจะดำรงตนอยู่ และทะเยอทะยานได้โดยปราศจากความรัก!